อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ชมพูผาเทิบ ดงดอกไม้ป่า และศิลปะแห่งแท่งหินธรรมชาติ

ในดินแดนอีสานที่อยู่ตัดกับแม่น้ำโขงมีภูมิประเทศที่ไม่เหมือนภาคใด ภูเขาหินทรายเหล่านี้แม้จะดูแห้งแล้งแต่มีเสน่ห์ของการท่องเที่ยวที่ไม่มีภาคใดเหมือน นั่นคือ ประติมากรรมหินทรายรูปร่างต่าง ๆ ตามแต่จินตนาการของผู้พบเห็น เช่นเดียวกับภูผาเทิบ ในอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร และดอกไม้ป่าต้นเล็ก ๆ ที่ลานมุจลินท์ที่จะบานชูช่อเมื่อลมหนาวมาเยือน

ที่ตั้ง ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง ห่างจากตัวจังหวัดมุกดาหาร ตามทางหลวงหมายเลข 2034 (มุกดาหาร-ดอนตาล) ประมาณ 17 กิโลเมตร

ช่วงเวลาที่เหมาะสม ปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว ประมาณเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม

การเดินทาง จากตัวเมืองมุกดาหารใช้ทางหลวงหมายเลข 2034 (มุกดาหาร-ดอนตาล) ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวามือไปทางอำเภอดอนตาลประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบทางแยกเข้าไปยังที่ทำการอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร

อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร

หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “ภูผาเทิบ” ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 59 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 48.5 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 30,312.5 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

สภาพภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร ประกอบไปด้วยภูเขาสูงชันหลายเทือกติดต่อกัน ยอดเขาที่สำคัญได้แก่ ภูนางหงส์ ภูถ้ำพระ ภูหลังเส ภูหินเทิบ ภูหมากยาง ภูโป่ง ภูมโน โดยมียอดเขาที่สูงที่สุด คือ ภูจอมศรี สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 420 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินและหินก้อนวางทับซ้อนกันค้อนข้างสมบูรณ์ เป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำหลายสาย เช่น ห้วยตาเหลือก ห้วยสิง ห้วยสะพาย ห้วยเรือ ห้วยบอน ห้วยช้างชน ห้วยไค้ และห้วยมะเล เป็นต้น

เทือกเขาส่วนใหญ่ในเขตอุทยานฯ นั้นมีลักษณะเป็นลูกคลื่นวางตัวในแนวเหนือ – ใต้ ขนานกับแม่น้ำโขงที่อยู่ห่างออกไป 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นหน้าผาและมีส่วนที่เป็นลานหินกว้างที่มีหินรูปร่างสวยงามแปลกตา บางก้อนประติมากรรมหินที่ธรรมชาติรังสรรค์ได้อย่างวิจิตร นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดปี โดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม อากาศจะเย็นสบาย ตามลานหินต่าง ๆ จะมีดอกไม้ป่าและดอกไม้ดินผลิดอกบานให้ชมด้วย ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับภูผาเทิบได้อย่างน่าสนใจ

สถานที่ท่องเที่ยวในภูผาเทิบ

· กลุ่มหินเทิบ

อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 100 เมตร เป็นกลุ่มหินที่ถูกกัดเซาะด้วยลม แดด และฝนเป็นเวลากว่า 120-95 ล้านปี ลักษณะของหินแต่ละก้อนนั้นมีรูปร่างแตกต่างกันอย่างวิจิตรพิสดาร บางก้อนมองดูคล้ายรูปไอพน จานบิน เก๋งจีน มงกุฎ หัวจระเข้ และหอยสังข์ ใกล้ ๆ กับกลุ่มหินเทิบ คือ ป่าเต็งรังแคระ หากเป็นช่วงเดือนตุลาคมจะมีดอกไม้ดินบานชูช่อนานาชนิด

· ลานมุจลินท์

อยู่ห่างจากลุ่มหินเทิบเดินเท้าไปประมาณ 300 เมตร มีลักษณะเป็นลานหินเรียบทอดยาวกว้างไกลต่อเนื่องมาจากกลุ่มหินเทิบ โดยมีป่าเต็งรังแคระล้อมรอบ นอกจากไม้พุ่มจำพวกข่อย นางฟ้าจำแลง อ้นเหลือง และกะโนคานแล้ว สิ่งที่พิเศษที่สุดของลานมุจลินท์คือ ดอกไม้ดินเป็นจำนวนมาก เช่น สร้อยสุวรรณา ดุสิตา หยาดน้ำค้าง หนาวเดือนห้า ดาวรวมดวง ซึ่งจะออกเอกบานสะพรั่งในเดือนตุลาคม – ธันวาคมของทุกปี จากลานมุจลินท์ยังสามารถชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงได้สวยงาม

· น้ำตกวังเดือนห้า

เป็นน้ำตกขนาดเล็กเกิดจากลำธารที่ไหลผ่านมาจากลานมุจลินท์ ภายในน้ำตกประกอบด้วยหินและโขดหิน นักท่องเที่ยวนิยมลงเล่นน้ำกันในช่วงฤดูร้อน เพราะน้ำจะในและไม่ลึก น้ำตกวังเดือนห้าอยู่ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มากนัก

· ผาอูฐ

อยู่ห่างจากกลุ่มหินเทิบเดินเท้ามาประมาณ 500 เมตร บริเวณหน้าผาแห่งนี้มีประติมากรรมหินรูปร่างคล้ายอูฐทะเลทราย และเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ภูถ้ำพระ ผาผักหวานและผาขี้หมูได้อย่างชัดเจน เบื้องล่างของหน้าผานี้ คือ หุบเขากว้างใหญ่ที่อุดมไปด้วยป่าที่เขียวขจี

· ภูถ้ำพระ

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของที่ทำการอุทยานฯ ห่างจากผาอูฐประมาณ 600 เมตร ตามตำนานกล่าวว่าที่แห่งนี้ เคยมีหมู่บ้านขอมมาอาศัยอยู่ก่อนที่จะบ้ายถิ่นฐานหนีภัยธรรมชาติไป จึงได้นำพระพุทธรูปที่ตนสักการะ บูชาไปเก็บไว้ในถ้ำแห่งนี้ ประกอบด้วย พระเงิน พระนาก พระทองคำ พระหยก พระว่าน และพระไม้ เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันหลงเหลือเพียงพระพุทธรู) ที่แกะสลักจากไม้เท่านั้น บริเวณที่ภูถ้ำพระแห่งนี้ยังมี “น้ำตกภูถ้ำพระ” เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ไหลผ่านมาตามหน้าผาหินท่ามกลางผืนป่าที่งดงามมาก

· ผามะนาว

มีทางเดินเท้าจากภูถ้ำพระไปอีกประมาณ 700 เมตร ผามะนาวเป็นหน้าเรียบสูงชัน มีน้ำตกไหลจากหน้าผาลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ด้านบนหน้าผาสามารถชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล มองเห็นกลุ่มหินเทิบและแม่น้ำโขงได้ ที่มาของชื่อผามะนาว เนื่องจากบริเวณนี้มีต้นมะนาวป่าขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง

· ถ้ำฝ่ามือแดง

ตั้งอยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ มห.1 (ห้วยสิงห์) ทางเข้าอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 8-9 ริมทางหลวงหมายเลข 2034 การเข้าไปเที่ยวที่ถ้ำฝ่ามือแดงควรมีเจ้าหน้าที่นำทางเพราะเป็นเส้นทางเดินป่าที่ใช้เวลาในการเข้าชมประมาณ 1.30 ชั่วโมง ถ้ำฝ่ามือแดงมีลักษณะเป็นเพิงหินกว้างประมาณ 3 เมตร ยาว 60 เมตร เป็นรูปรอยฝ่ามือสีแดงติดอยู่ที่ผนังถ้ำ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 5,000 ปี

ภายในอุทยานแห่งชาติมุกดาหารยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายจุด เช่น ผางอย และผาปู่เจ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนได้ตลอดปี โดยเฉพาะเมื่อฤดูหนาว เพราะอากาศจะเย็นสบาย ไม่ร้อน และยังจะได้ชมสายหมอกและทุ่งดอกไม้ป่าด้วย

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

· หอแก้วมุกดาหารเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก

ตั้งอยู่ในตัวเมืองมุกดาหาร ลักษณะเป็นหอสูง ชั้นล่างจัดเป็นส่วนแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจังหวัดมุกดาหาร ชั้นบนสุดเป็นหอพระที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนวมิ่งมงคลมุกดาหาร และสามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองมุกดาหาร วิวแม่น้ำโขงและประเทศลาวได้ หอแก้วฯ เปิดให้เขาชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08:00-18:00 น.

· หอยสมัยหิน

ตั้งอยู่ที่โคกหินแดง บ้านนายอ ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล การเดินทางใช้หมายเลข 2034 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 17-18 ทางเข้าไปบ้านนาโพธิ์ หอยที่พบในบริเวณนี้มีลักษณะคล้ายหอยสังข์จำนวนมาก มีอายุประมาณ 27 ล้านปี ซึ่งชุดพบเป็นแห่งที่ 3 ของโลก

· ศาลเจ้าพ่อฟ้ามุงเมือง

ตั้งอยู่ที่ถนนสองนางสถิต ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเมืองมุกดาหาร โดยมีหลักเมืองประดิษฐานอยู่ด้วย ชาวเมืองให้ความเคารพนับถือและมีความเชื่อว่าจะช่วยปกปักษ์รักษาเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุข

· ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง

ตั้งอยู่บนถนนสำราญชายงโขง ติดกับด่านตรวจคนเข้าเมือง ศาลนี้เดิมเป็นเพียงศาลไม้ต่อมาจึงได้บูรณะขึ้นใหม่ ชาวเมืองให้ความเคารพโดยเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่ศาลเจ้าฟ้ามุงเมือง ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปีชาวเมืองจะจัดพิธีบวงสรวงเจ้าพ่อฟ้ามุงเมือง และเจ้าแม่สองนางพี่น้อง

· วัดศรีมงคลใต้

ตั้งอยู่ริมถนนริมแม่น้ำโขง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวง พระพุทธเจ้าคู่บ้านคู่เมืองที่สร้างขึ้นก่อนการตั้งเมืองที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธามาก

· วัดศรีบุญเรือง (บ้านใต้ )

ตั้งอยู่ที่ถนนสำราญชายโขง ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธสิงห์สอง เป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่มีตำนานว่าเจ้ากินรี ไปอัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์เมื่อครั้งสร้างเมืองมุกดาหาร ชาวบ้านจะจัดพิธีสรงน้ำพระพุทธสิงห์สองและแห่รอบเมืองในเทศกาลสงกรานต์ของทุก ๆ ปี

· ตลาดอินโดจีน

ตั้งอยู่ที่ถนนเลียบแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ใกล้ ๆ กับด่านตรวจคนเข้าเมือง เป็นตลาดสินค้าที่ใหญ่ที่สุดที่รวบรวมสินค้าหลายประเภท ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผ้าไหม ผ้าทอต่าง ๆ เครื่องเงินรวมถึงเครื่องประดับมากมาย เป็นแหล่งเลือกซื้อของฝากก่อนกลับกรุงเทพฯ ที่ไม่ควรพลาด

สิ่งอำนวยความสะดวก

อุทยานแห่งชาติมุกดาหารมีบ้านพักนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ จำนวน 1 หลัง มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พร้อมเครื่องนอน ค่าบริการ 1,800 บาท และลานกางเต็นท์สำหรับผู้ที่ต้องการค้างแรม ประเภทค่ายพักคนละ 50 บาท มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่คอยให้ข้อมูล การท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ และต้องการวิทยากรควรติดต่อล่วงหน้า ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมคนละ 20 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

อุทยานแห่งชาติมุกดาหาร โทรศัพท์ 0 4260 1753

ททท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 4 โทรศัพท์ 0 4251 3490-1

Package 2 วัน 1 คืน

วันแรก เที่ยวภูผาเทิบ

ช่วงเช้า เดินทางจากตัวเมืองมุกดาหาร ถึงที่ทำการอุทยานฯ ฟังคำแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวจากเจ้าหน้าที่ เตรียมข้าวกลางวันและน้ำดื่ม เดินเที่ยวชมประติมากรรมหินรูปร่างต่าง ๆ ในกลุ่มหินเทิบ จากนั้นเดินเที่ยวชมทุ่งดอกไม้ต้นเล็ก ๆ ที่ลานมุจลินท์ แวะเล่นน้ำตกวังเดือนห้า ชมวิวป่าเขาที่สวยงามที่ผาอูฐ พักรับประทานอาหารกลางวันและพักเหนื่อยเพื่อเดินเที่ยวต่อในช่วงบ่าย

ช่วงบ่าย เดินเที่ยวถ้ำที่ภูถ้ำพระ ชมน้ำตำภูถ้ำพระที่สวยงาม จากนั้นมุ่งหน้าสู่ผามะนาว ชมแหล่งน้ำซับและชมทิวทัศน์แม่น้ำโขง และขุนเขาเมืองลาวในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากผามะนาวไปเที่ยวชมภาพเขียนสีรอยประทับฝ่ามือของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีอายุกว่า 5,000 ปี และเดินทางกลับมายังที่ทำการอุทยานฯ

วันที่ 2 เที่ยวตัวเมือง ไหว้พระคู่บ้านคู่เมือง

ช่วงเช้า ไปชมนิทรรศการการจำลองวิถีชีวิต และประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการสร้างเมืองมุกดาหาร ที่หอแก้วเฉลิมพระเกียรติกาญจนาภิเษก ชมทิวทัศน์ตัวเมืองมุกดาหารในยามเช้าและวิวแม่น้ำโขง จากนั้นเดินทางไปไหว้ศาลเจ้าพ่อฟ้ามุงเมือง และขอพรที่ศาลเจ้าแม่สองนางพี่น้อง เที่ยววัดศรีมงคลใต้ไหว้พระเจ้าองค์หลวงพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง นมัสการพระพุทธสิงห์สองที่วัดศรีบุญเรือง ก่อนจะไปช้อปปิ้งที่ตลาดอินโดจีน

ช่วงบ่าย หลังรับประทานอาหารกลางวันแล้ว เลือกเดินช็อปปิ้งที่ตลาดอินโดจีนซื้อของฝาก และเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ