วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ทุ่งดอกทานตะวัน อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี

ทุ่งดอกทานตะวัน อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ ชมทุ่งดอกทานตะวัน

หลังสายฝนพัดผ่าน ลมหนาวโชยความเย็นมาทดแทน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จัดแผนเดินทางขึ้นเหนือเพื่อท่องป่า ชมทุ่งดอกไม้เมืองหนาวที่แข่งกันผลิดอก บานสะพรั่ง หากแต่อีกพื้นที่หนึ่ง ที่อยู่ห่างจากเมืองกรุงเพียง 153 กิโลเมตร ในช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนมกราคม ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งฟังเสียงฉึกฉัก และรับลมหนาวผ่านช่องหน้าต่าง เพื่อสัมผัสความงามของทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองที่บานสะพรั่งขนาบสองข้างทางกันดู

ที่ตั้ง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี

ช่วงเวลาที่เหมาะสม ฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคม

การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรี เมื่อถึงสามแยกพุแคให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 จากนั้นแยกขวาอีกครั้งไปตามทางหลวงหมายเลข 3017 (สายลพบุรี – โคกตูม) ถึงอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ระยะทางประมาณ 153 กิโลเมตร

ทุ่งดอกทานตะวัน

จังหวัดลพบุรีในอดีตเป็นเมืองลูกหลวงของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาก่อน เมื่อสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงสร้างเมืองอยุธยาแล้วได้โปรดให้พระราเมศวร พระราชโอรส ไปครองเมืองลพบุรีในปี พ.ศ. 1893 กระทั่งถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงเห็นว่าอยุธยาใกล้ทะเลเกินไปอาจถูกกองเรือต่างชาติโจมตีง่าย จึงโปรดให้สร้างลพบุรีเป็นราชธานีแห่งที่สอง

ลพบุรียังมีสถานที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกมากมาย ที่คุณสามารถแวะเที่ยวชมก่อนขับรถเลียบถนน ทางหลวงหมายเลข 3017 ไปอำเภอพัฒนานิคม เพื่อชมความงามของทุ่งดอกทานตะวันที่บานสะพรั่งเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคมของทุกปี และยังสามารถขับรถไปเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อทำกิจกรรมหลากหลายภายในเขื่อน และยังสามารถรอชมรถไฟลอยน้ำที่วิ่งผ่านรางรถไฟในยามพระอาทิตย์คล้อยอัสดงลงพื้นอ่างเก็บน้ำของเขื่อนได้ด้วย

ก่อนเดินทางกลับคุณยังสามารถแวะซื้อสินค้า OTOP ขึ้นชื่อของจังหวัดลพบุรีเป็นของฝากก่อนกลับบ้านได้ มีให้เลือกทั้งผ้ามัดหมี่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า เครื่องจักสาน โลหะหล่อ และผลไม้หลากชนิด

สถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ

ทุ่งดอกทานตะวัน

ที่จังหวัดลพบุรีนอกจากจะมีพระปรางค์ 3 ยอดที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาสักการบูชาแล้ว บนถนนสายอำเภอพัฒนานิคม ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคมของทุกปี ตลอดสองข้างทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองบานสะพรั่งที่ถูกปลูกอยู่ในสวนเอกชน ยินดีต้อนรับให้นักท่องเที่ยวเข้าไปแวะชมความงามพร้อมกับถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก โดยจะเสียค่าบริการประมาณ 10-20 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับแต่ละสวน บางสวนจะยังมีผลิตภัณฑ์จากเมล็ดทานตะวันให้เลือกซื้อรับประทานกัน หากคุณต้องการชมทุ่งดอกทานตะวันที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา บนถนนสายพัฒนานิคมที่บ้านชอนน้อย ตำบลชอนน้อย ก็มีให้ชมในบรรยากาศที่แตกต่างไปจากการชมในสวนด้วย

สถานที่เที่ยวใกล้เคียง

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ที่ตั้ง อำเภอพัฒนานิคม ห่างจากตัวเมืองจังหวัดลพบุรีประมาณ 48 กิโลเมตร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นเขื่อนใหม่ล่าสุดของประเทศไทย ได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ลักษณะเป็นเขื่อนดินมีแกนกลางเป็นดินเหนียว มีความจุอ่างเก็บน้ำใหญ่เป็นอันดับที่สาม รองจากเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนภูมิพล มีความยาวสันเขื่อน 4,860 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร มีอาคารระบายน้ำล้นเป็นประตูระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก 7 ช่อง ระบายน้ำได้สูงสุดถึง 3,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

สันเขื่อน

นักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าเพื่อเข้าถึงตัวสันเขื่อนระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร หรือจะเลือกนั่งรถลากจูงชมสันเขื่อน โดยส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะเลือกนั่งรถลากจูงมีค่าบริการผู้ใหญ่ 20 บาท/คน เด็ก 10 บาท/คน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที/รอบ ระยะทางไป-กลับประมาณ 10 กิโลเมตร สามารถชมทัศนียภาพเหนือเขื่อน ท้ายเขื่อน และชายหาดเหนือผืนน้ำได้สวยงาม

พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก

ที่ตั้ง อยู่เยื้องกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ภายในพิพิธภัณฑ์ นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับโบราณวัตถุอายุนานนับ 100 ปี ทั้งโครงกระดูกมนุษย์ เครื่องปั้นดินเผา จากแหล่งที่ขุดพบในพื้นที่สร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และยังมีการแสดงวิถีชีวิตของชาวไทยเบิ้งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ด้วย เปิดบริการ 08.30 – 16.30 น. เข้าชมฟรี

จุดชมรถไฟลอยน้ำ

เป็นหนึ่งในกิจกรรที่ไม่ควรพลาด แต่จะหาดูได้เฉพาะในช่วงวันหยุดช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่ถ้าต้องการเห็นแบบใกล้ชิด และได้มายืนอยู่บนรางรถไฟลอยน้ำ ก็สามารถเลือกเที่ยวกับขบวนรถไฟพิเศษของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่จะมีเที่ยวรถในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนมกราคม โดยรถไฟจะจอดบนรางกลางผืนน้ำทะเลสาบให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพ นับเป็นจุดชมวิวที่คลาสสิคและหาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียว

กิจกรรมที่น่าสนใจภายในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

นั่งรถม้าชมพูมิทัศน์รอบเขื่อน

หากคุณเคยสัมผัสกับบรรยากาศการนั่งรถม้าที่จังหวัดลำปาง ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็มีรถม้าคอยพานักท่องเที่ยวชม ภูมิทัศน์รอบ ๆ เขื่อน นอกเส้นทางของรถลากจูงให้ได้สัมผัสเขื่อนอีกมุมมองหนึ่ง ราคา 50 บาท/รอบ/4-5 คน

ติดต่อสอบถาม สวัสดิการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โทรศัพท์ 0 3649 4243

สิ่งอำนวยความสะดวก

บนถนนทางหลวงหมายเลข 3017 (สายลพบุรี – โคกตูม) มาอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี นอกจากจะมีทุ่งดอกทานตะวัน และร้านอาหารอร่อย ๆ เรียงรายตามสองข้างทางแล้ว ยังมีบ้านพักหลากสไตล์ หลายราคาให้เลือกตามความพอใจ หรือจะขับเลยไปพักที่บ้านรับรองเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็สะดวก สบาย หากใครนำเต็นท์มาเอง สะดวกที่จะกางเต็นท์ในพื้นที่เขื่อนก็ทำได้เช่นกัน

· บ้านพักรับรองเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

บ้านพัก 3 แบบ บ้านเดี่ยว พักได้ 4 คน/หลัง, บ้านแฝด พักได้ 10 คน/หลัง และบ้านเรือนแถว ราคา 1,000 – 1,200 บาท

· ลานกางเต็นท์เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ค่าธรรมเนียม ค่าเช่าเต็นท์และถุงนอนคืนละ 300 บาท/3-4คน ถ้านำเต็นท์มาเอง คิดค่าเช่ากางเต็นท์หลังเล็ก 70บาท/คืน หลังใหญ่ 140บาท/คืน ติดต่อสอบถาม โทรศัพท์ 0 3649 4243

เที่ยวกับการรถไฟแห่งประเทศไทย

เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ชมรถไฟลอยน้ำ และทุ่งดอกบัวตอง

06.20 น. ออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพมหานคร

09.20 น. ถึงจุดชมทุ่งดอกทานตะวัน

10.10 น. ถึงสถานีสุรนารายณ์ ทางการรถไฟจะหยุดให้นักท่องเที่ยวชมวิวกลางสะพานนาน 5 นาที เพื่อชมความงามของรถไฟลอยน้ำ จากนั้นจะย้อนกลับไปยังเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทุ่งดอกทานตะวัน ชมพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก และซื้อของที่ระลึกจากศูนย์จำหน่ายร้านค้า OTOP

13.10 น. ขบวนรถไฟเคลื่อนตัวออกจากป้ายหยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

16.25 น. ถึงสถานรถไฟกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

อัตราค่าบริการไป – กลับ

· ชั้น 1 ปรับอากาศ 750 บาท/คน, ชั้น 2 ปรับอากาศ 550 บาท/คน

· ชั้น 3 ธรรมดา 350 บาท/คน

* หมายเหตุ โปรแกรมการเดินทางเที่ยวพิเศษนี้มีเฉพาะช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี

Package 1 Day Trips

· ช่วงเช้า ขับรถเลียบถนนทางหลวงหมายเลข 3017 เพื่อชมความงามของทุ่งดอกทานตะวันที่จะบานเหลืองสะพรั่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม บริเวณสองข้างทางไปอำเภอพนัสนิคม สามารถแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้

· ช่วงสาย ขับรถเลยไปชมการแปรรูปผลผลิตจากทานตะวันที่กลุ่มแม่บ้าน ตำบลชอนน้อย เช่น คุ้กกี้ทานตะวัน เมล็ดทานตะวันคั่ว ข้าวเกรียบทานตะวัน ข้าวตังทานตะวัน เพื่อซื้อรับประทานระหว่างทาง (0 1804 1059, 0 1949 2306) จากนั้นเดินทางไปเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เดินเท้าไปชมพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก และถ่ายรูปบริเวณรอบ ๆ เขื่อน พักรับประทานส้มตำและปลาเผารสเด็ด เป็นมื้อกลางวันที่ร้านอาหารปากทางเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

· ช่วงบ่าย นั่งรถลากจูงชมสันเขื่อน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที กลับมาที่ท่ารถนั่งรถม้าเที่ยวชม ภูมิทัศน์รอบเขื่อนอีก 1 รอบ หากมีเวลาเหลือยังสามารถขับรถไปอำเภอบ้านหมี่ ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร เพื่อเลือกซื้อผ้ามัดหมี่เป็นของฝากขึ้นชื่อไปฝากคนที่บ้าน

· ช่วงเย็น ขับรถย้อนกลับมาที่จุดชมวิวรถไฟลอยน้ำที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อรอชมขบวนรถไฟลอยน้ำก่อนพระอาทิตย์ตกดิน เป็นโปรแกรมปิดท้ายก่อนเดินทางกลับ โดยสวัสดิภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น