วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ป่าดงนาทาม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

ป่าดงนาทาม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

ละลานตาทุ่งดอกไม้ ดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครที่ผาชนะได-ป่าดงนาทาม

เป็นที่รู้จักกันดีว่าผาชนะได คือ จุดที่เห็นอรุณรุ่งก่อนใครในสยาม ชื่อของผาชนะไดมักปรากฏทุกครั้งเมื่อกรมอุตุนิยมวิทยารายงานข่าวเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ผืนป่าดงนาทามที่กว้างใหญ่ยังอุดมไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย มียอดเขาสูงสุดจากระดับน้ำทะเลถึง 510 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ที่เป็นลานหิน คือ แหล่งดอกไม้ป่าสวยงาม เมื่อฤดูฝนกำลังจะผ่านไปในเดือนตุลาคม ดอกไม้เหล่านี้ก็สะพรั่งไปทั่ว

ที่ตั้ง บ้านนาโพธิ์กลาง ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม บนทางหลวงหมายเลข 2112 (โขงเจียม – เขมราฐ) ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ 120 กิโลเมตร

ช่วงเวลาที่เหมาะสม ปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม

การเดินทาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยัง อบต.นาโพธิ์กลางได้ 2 เส้นทาง คือ จากตัวเมืองอุบลราชธานีมุ่งหน้าสู่อำเภอพอบูลมังสาหาร ข้ามสะพานแม่น้ำมูลเลี้ยวขวาเข้าสู่อำเภอโขงเจียม จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 2112 (โขงเจียม – เขมราฐ) ถึงตำบลนาโพธิ์กลาง รวมระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร หรือใช้เส้นทางจากตัวเมืองอุบลฯ มาทางอำเภอตระการพืชผล เลี้ยวขวาเข้าอำเภอศรีเมืองใหม่ ไปตำบลนาโพธิ์ได้เหมือนกัน ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร

ป่าดงนาทาม

ป่าดงนาทาม อยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีพื้นที่ติดต่อกัน 3 อำเภอ คือ อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี หากมองดูจากแผนที่ประเทศไทยจะอยู่บริเวณด้านตะวันออกของคมขวาน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 88 ตารางกิโลเมตร หรือ 55,000 ไร่ ทิศตะวันออกของพื้นที่มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำโขง แนวชายแดนไทย – ลาว ผืนป่าดงนาทามได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติผาแต้มในปี พ.ศ. 2534

ภูมิประเทศของป่าดวงนาทามเป็นที่ราบสูงสลับกับภูเขาหินทราย มียอดเขาที่สูงที่สุด 510 เมตร จากระดับน้ำทะเล พื้นที่ริมแม่น้ำโขงเป็นหน้าผาสูงชัน มีลานหิน หรือ ผลาญหินกระจายอยู่ทั่วไป รวมถึงเสาหินหรือเสาเฉลียง และแท่งหินรูปต่าง ๆ ป่าที่พบส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง ใกล้ ๆ กับลานหินเป็นต้นไม้แคระและป่าโปร่งที่ราบลุ่มริมห้วยเป็นป่าดิบแล้ง ไม้ที่สำคัญในพื้นที่ คือ เต็ง รัง เหียง ประดู่ เหมือด ยาง กะบาก ตะแบกเลือด และสนสองใบ ในช่วงฤดูร้อน (กุมภาพันธ์ – มีนาคม) ต้นไม้ใหญ่บางประเภทจะผลิดอกสวยงาม เช่น รัง ตะแบก ผุดผาด และช้างน้าว ส่วนช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว (ตุลาคม – พฤศจิกายน) จะมีดอกไม้ขึ้นตามซอกหิน เช่น หยาดน้ำค้าง เหลืองพิสมร เอนอ้า แดงอุบล และทุ่งดอกไม้ดินมากมาย เช่น ดุสิตา สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร กระดุมเงิน เป็นต้น

ป่าดงนาทามนั้น มีจุดท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว ในลักษณะของการเดินศึกษาธรรมชาติ นอกจากพืชพรรณและดอกไม้ป่าแล้ว ป่าดงนาทามยังมีน้ำตกขนาดเล็ก และขนาดกลางอยู่หลายแห่ง ซึ่งจะมีน้ำมากช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม หน้าผาสูงในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงยังชมวิวได้สวยงาม โดยเฉพาะทิวทัศน์แม่น้ำโขง และพระอาทิตย์ขึ้น เช่นที่ผาชนะได ซึ่งเป็นจุดที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้อ้างอิงในการกำหนดเวลาพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้ยังมีหน้าผาอื่น ๆ อีก รวมถึงถ้ำต่าง ๆ และการล่องเรือเที่ยวในแม่น้ำโขง

สถานที่ท่องเที่ยวในผืนป่าดงนาทาม

ป่าดงนาทามมีเส้นทางเดินป่าอยู่ 2 เส้นทาง คือ จากวัดถ้ำปาฏิหาริย์ เดินเท้าระยะทาง 16.4 กิโลเมตร หรือจากหน่วยพิทักษ์ป่าที่ 4 บ้านทุ่งนาเมือง เดินเท้าระยะทาง 18.6 กิโลเมตร โดยเส้นทางทั้งสองสายนี้จะมาบรรจบกันที่น้ำตกห้วยพอก ซึ่งเป็นจุดพักแรม ใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน จากน้ำตกห้วยพอก นักท่องเที่ยวสามารถเดินต่อไปยังบ้านปากลาได้ โดยที่ไม่ต้องเดินย้อนกลับไปทางเดิม

· เส้นทางที่ 1 วัดถ้ำปาฏิหาริย์ – ผาชนะได

น้ำตกกิ๊ด

อยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นเดินเท้าจากวัดถ้ำปาฎิหาริย์ประมาณ 900 เมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็กชั้นเดียวที่ไหลลงมาจากหน้าผา

หินเต่าชมจันทร์

อยู่ห่างจากน้ำตกกิ๊ดประมาณ 600 เมตร มีลักษณะเป็นหินทรายรูปเต่าขนาดใหญ่แหงนมองท้องฟ้า นอกจากความแปลกของหินแล้ว ยังมีกล้วยไม้เอื้องม้าวิ่ง และกล้วยไม้แดงอุบล กล้วยไม้ประจำถิ่นของจังหวัดอุบลราชธานี

น้ำตกซะปัน

อยู่ห่างจากหินเต่าชมจันทร์ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกเล็กๆ คล้ายกับน้ำตกกิ๊ด

น้ำผุด

อยู่ห่างจากน้ำตกซะปันประมาณ 1.8 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นตาน้ำผุด ขึ้นมาจากผิวดิน รอบ ๆ บริเวณร่มรื่นไปด้วยเฟิร์นสีเขียวปกคลุมไปทั่ว

พลาญหินถ้ำไฮ

อยู่ห่างจากน้ำผุดประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะคล้ายกับสวนหินขนาดใหญ่ มีทุ่งดอกไม้บนลานหินมากมายให้ชมอย่างหนาแน่น เช่น สร้อยสุวรรณา ดุสิตา มณีเทวา หญ้าบัว เป็นต้น ในช่วงยามเย็นยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามอีกด้วย

เสาเฉลียงคู่


อยู่ห่างจากพลาญหินถ้ำไฮไม่ไกลนัก เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ ลม และแสงแดดมานานหลายร้อยปี ลักษณะเป็นแท่งหินรูปร่างคล้ายกับดอกเห็นยักษ์ 2 แท่ง ตั้งอยู่คู่กัน นอกจากความแปลกและอัศจรรย์ในรูปร่างแล้ว บริเวณนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามอีกด้วย

โหง่นแต้ม

อยู่ห่างจากเสาเฉลียงคู่ประมาณ 400 เมตร มีลักษณะเป็นลานหินโล่งติดกับหน้าผาที่สามารถชมวิวทิวทัศน์แม่น้ำโขงได้ บริเวณนี้มีทุ่งดอกไม้ดินให้ชมเป็นจำนวนมาก ใต้เพิงผาใกล้ ๆ กับโหง่นแต้มมีรอยประทับรูปฝ่ามือโบราณของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เดิมไปชมได้ไม่ยากนัก

เนินสนสองใบ

อยู่ถัดจากโหง่นแต้มตามเส้นทางเดินป่าดงนาทาม บริเวณนี้มีลักษณะเป็นเนินเขาสูงที่เต็มไปด้วยต้นสนสองใบจำนวนมาก บางต้นขึ้นปกคลุมอยู่ตามซอกหิน บรรยากาศร่มรื่น หากเดินต่อจากเนินสองใบไปประมาณ 1.1 กิโลเมตร ก็จะถึงผาชนะได

ผาชนะได

เป็นหน้าผาที่มีความสูงชันมาก และเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนจุดใดในประเทศไทย มองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำโขงอยู่เบื้องล่าง รวมถึงเทือกเขาแดนลาวที่สลับซับซ้อน ในฤดูหนาวยังมีความงามของทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขง ให้ชมด้วย เนื่องจากเป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจุดแรกในประเทศไทย กรมอุตุนิยมจึงเอาผาชนะไดเป็นจุดอ้างอิงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกของประเทศไทย

น้ำตกห้วยพอก

อยู่ห่างจากผาชนะไดประมาณ 300 เมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีหลายชั้นไหลลดหลั่นลงมาคล้ายกับขั้นบันได มีต้นน้ำมาจากผืนป่าดงนาทาม ในฤดูฝนจะมีน้ำมาก ลงเล่นน้ำได้ ตามโขดหินรอบ ๆ น้ำตกมีเอื้องนวลจันทร์ให้ชมด้วย ส่วนในฤดูร้อน น้ำจะน้อย ช่วงที่น้ำตกนี้สวยงามที่สุด คือตั้งแต่เดือนมิถุนายน – ธันวาคม

· เส้นทางที่ 2 บ้านทุ่งนาเมือง – ผาชนะได

ถ้ำพระสูง

อยู่ห่างจากบ้านทุ่งนาเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร ถ้ำพระสูงมีลักษณะคล้ายกับเสาเฉลียง เพียงแต่ด้านล่างเป็นโพรงหินที่ชาวบ้านเคยนำพระพุทธรูปไม้มาประดิษฐานไว้ แต่ถูกขโมยไปหมดแล้ว

น้ำตกทุ่งนาเมือง

อยู่ถัดจากถ้ำพระสูงไม่ไกล ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยนาเมืองใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ก่อนทิ้งตัวลงหน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกนี้มีน้ำมากระหว่างเดือนมิถุนายน-ธันวาคม

ภูน้ำถ้ำและผาหินฝน

อยู่ห่างจากน้ำตกทุ่งนาเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะเป็นเนินหินทรายที่มีน้ำซับไหลรินตลอดเวลา ใกล้ ๆ กัน คือ ผาหินฝนเป็นหน้าผาชนิดเดียวกับที่นำมาทำเป็นหินลับมีด

ถ้ำโบกโลงและกลุ่มเสาเฉลียง

อยู่ถัดไปประมาณ 400 เมตร ภายในถ้ำเคยมีโลงศพโบราณอยู่แต่ปัจจุบันได้ถูกไฟเผา เดินถัดมาอีกประมาณ 500 เมตร มีกลุ่มเสาเฉลียงอยู่ 2-3 ต้น แต่มีขนาดเล็กกว่าที่ผาแต้ม

หินโยกมหัศจรรย์และลานภูจ้อมก้อม

อยู่ห่างจากถ้ำโบกโลงประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ น้ำหนักประมาณ 50 ตัน แต่สามารถใช้เพียงฝ่ามือเดียวจับโยกไปมาได้ อย่างน่ามหัศจรรย์ บริเวณรอบ ๆ คือ ลานภูจ้อมก้อมที่เป็นลานหินโล่ง ๆ ในช่วงฤดูฝนต้นฤดูหนาวบนลานหินนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้ดินที่สวยสดงดงาม

ผาแดง

อยู่ห่างจากหินโยกประมาณ 400 เมตร ผาแดงเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์แม่น้ำโขงและชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ จากผาแดงเมื่อเดินผ่าเนินสนสองใบไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงผาชนะได และน้ำตกห้วยพอกตามลำดับ

เส้นทางน้ำตกห้วยพอก – บ้านปากลา

เส้นทางนี้เริ่มต้นจากจุดพักแรมบริเวณน้ำตกห้วยพอก เพื่อเนการเปลี่ยนเส้นทางไม่ต้องเดินกลับในทางเดิม เส้นทางนี้จะผ่านผากำปั่น ผาหินแตก น้ำตกกวางโตน น้ำตกช้อย ถ้ำฝ่ามือแดง และบ้านปากลา

ผากำปั่น

อยู่ระหว่างเส้นทางจากน้ำตกห้วยพอกไปบ้านปากลา ห่างจากน้ำตกห้วยพอกประมาณ 2 กิโลเมตร หน้าผานี้มองดูแล้วคล้ายรูปเรือกำปั่น เป็นจุดชมวิวที่งดงามอีกแห่งหนึ่ง เมื่อปลายฝนต้นหนาว จะมีดอกไม้ดินบานสะพรั่งอยู่ทั่วลานหินขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสร้อยสุวรรณาที่มีมากที่สุด

ผาหินแตก

อยู่ถัดออกไปอีกประมาณ 700 เมตร เป็นชะง่อนผาขนาดใหญ่ยื่นออกไปทางแม่น้ำโขง คล้ายกับผาหล่มสักบนภูกระดึง แต่ไม่มีต้นสน เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า ใกล้ ๆ กัน คือ น้ำตกกวางโตน หรือกวางกระโดด เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว

ถ้ำฝ่ามือแดง

อยู่ห่างจากน้ำตกกวางโตนประมาณ 400 เมตร เป็นถ้ำที่ปรากฏรูปประทับฝ่ามือของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ จากจุดนี้เดินไปอีกประมาณ 2.5 กิโลเมตรก็ถึงบ้านปากลา

บ้านปากลา

เป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง จากบ้านปากลานี่เอง นักท่องเที่ยวสามารถเหมาเรือล่องชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำโขงได้ โดยจะล่องไปขึ้นที่บ้านคันท่าเกวียน ใช้เวลาในการล่องประมาณ 30 นาที โดยนัดให้รถมารอรับที่หมู่บ้านคันท่าเกวียน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการล่องเรือ คือ ฤดูร้อน เพราะช่วงหน้าแล้งระดับน้ำจะลดลง มองเห็นเกาะแก่งสวยงาม ไม่นิยมล่องเรือในฤดูฝนเพราะน้ำไหลเชี่ยวอาจเกิดอันตรายได้

สิ่งอำนวยความสะดวก

องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์กลาง ได้จัดการการท่องเที่ยวป่าดงนาทาม โดยจะมีมัคคุเทศก์ ลูกหาบให้ พร้อมทั้งเต็นท์ให้เช่า ผ้าห่ม ถุงนอน เรือนำเที่ยว รถยนต์รับส่ง นักท่องเที่ยวสามารถเตรียมอาหารมาเองหรือให้ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลจัดให้ก็ได้ ซึ่งต้องติดต่อล่วงหน้าก่อนเดินทาง ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์กลาง โทรศัพท์ 0 4538 1063 คุณคมสรรค์ ศรีมากรณ์ โทรศัพท์ 0 1070 8432 คุณธีระชัย สายทอง โทรศัพท์ 0 9281 4840

· Package 2 วัน 1 คืน

วันแรก

เริ่มเดินเท้าจากวัดถ้ำปาฏิหาริย์ ผ่านน้ำตกกิ๊ด หินเต่าชมจันทร์น้ำตกซะปัน พลาญหินถ้ำไฮ เสาเฉลียงคู่ โหง่นแต้ม เนินสนสองใบ ผาชนะได เข้าจุดพักแรมน้ำตกห้วยพอก

วันที่ 2

ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชนะได หลังรับประทานอาหารเช้าแล้ว เดินทางไปผากำปั่น ผาหินแตก น้ำตกกวางโตน ชมถ้ำฝ่ามือแดง ถึงบ้านปากลา ต่อด้วยล่องเรือชมทัศนียภาพสองฝั่งโขง ถึงบ้านคันท่าเกวียนและเดินทางกลับ

· Package 3 วัน 2 คืน

วันแรก

เริ่มต้นเดินเท้าจากน้ำตกทุ่งนาเมือง ผ่านถ้ำพระสูง โบกปลาม้า เสาเฉลียงเดี่ยว ภูจ้อมก้อม หินโยก โบกโลง ผาหินฝน ผาแดง เนินสนสองใบ ผาชนะได พักแรมกางเต็นท์ที่น้ำตกห้วยพอก

วันที่ 2

ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาชนะได จากนั้นออกเดินทางต่อไปยังผากำปั่น ผาหินแตก น้ำตกกวางโตน ชมดอกไม้ป่าบนลานหิน ป่าต้นน้ำ ชมพระอาทิตย์ตกที่เสาเฉลียงคู่ และเดินกลับที่พักที่น้ำตกห้วยพอก

วันที่ 3

รับประทานอาหารเช้าจากนั้น เดินทางไปชมทุ่งดอกไม้ป่า ที่โหง่นแต้ม พลาญหินถ้ำไฮ ตาน้ำ ถ้ำกุลา น้ำตกซะปัน น้ำตกกิ๊ด ถ้ำปาฏิหาริย์ และเดินทางกลับ องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์กลาง ระหว่างทางแวะชมลานวัดภูอานนท์ ถ้ำลายมือผีกองกอย หรือหากมีเวลาอีกสักนึ่งวัน อาจจะไปค้างโฮมสเตย์ที่บ้านซะซอมอีกคืนก็ได้

วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ภูสมุย อำเภอโพธ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี

ภูสมุย อำเภอโพธ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี

ขึ้นดอยนอนภู ดูทะเลดอกไม้

ชื่อของภูสมุยนั้นละม้ายคล้ายกับเกาะสวยแห่งหนึ่งที่โด่งดัง ของทะเลสุราษฎร์ธานี เพียงแต่สมุยแห่งนี้ คือภูเขาที่อยู่ในทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม บนยอดภูสมุยและรอบ นั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นทั้งจุดชมวิวและทุ่งดอกไม้ ด้วยความสูงถึง 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงเหมาะกับการนอนเต็นท์ท้าลมหนาวได้ไม่แพ้ดอยสูงในภาคเหนือเลยทีเดียว

ที่ตั้ง บ้านสำโรง อำเภอโพธิ์ไทร บนทางหมายเลข 2112 (โพธิ์ไทร-โขงเจียม) ห่างจากตัวเมืองอุบลราชธานีประมาณ 130 กิโลเมตร

ช่วงเวลาที่เหมาะสม ปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว ประมาณเดือนตุลาคม – ธันวาคม

การเดินทาง ตัวเมืองอุบลราชธานี เดินทางด้วยหมายเลข 2050 ( อุบลฯ - เขมราฐ) ผ่านอำเภอตระการพืชผล จนถึงอำเภอโพธิ์ไทรแล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2112 เส้นทางสายยุทธศาสตร์โขงเจียม - เขมราฐ) ประมาณกิโลเมตรที่ 63 ถึงที่ทำการ อบต. สำโรง รวมระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร

ภูสมุย

ภูสมุย ชื่อนี้แม้ว่าจะเขียนเหมือนกับเกาะสมุย ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่อ่านออกเสียงว่า สะ-มุย ปัจจุบันอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนตำบล อำเภอโพธิ์ไทร ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 106 ตารางกิโลเมตร ด้วยพื้นที่ที่กว้างใหญ่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้มที่ครอบคลุม 3 อำเภอ คือ อำเภอโขงเจียม อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอโพธิ์ไทร ภูสมุย จึงเป็นภูเขาที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของที่ทำการอุทยานฯ โดยมีอาณาเขตติดต่อกัน ทิศเหนือติดกับตำบลสองคอน ทิศใต้ติดกับตำบลเหล่างาม ทิศตะวันตกติดกับตำบลสารภี และทิศตะวันออกติดกับแม่น้ำโขงเส้นพรมแดนระหว่างไทย – ลาว

สภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปในเขตภูสมุย เป็นที่ราบสูงสลับกับภูเขาสูงชันในแถบริมแม่น้ำโขง พื้นที่โดยส่วนใหญ่จะเป็นลายหินกระจายอยู่ทั่วไป รวมถึงเสาหินที่เกิดจากการกัดเซาะของลมและฝนจนมีลักษณะที่พิเศษและรูปร่างที่แปลกตาอยู่มากมาย พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเต็งรัง ยกเว้นบริเวณใกล้ ๆ กับลานหินจะเป็นป่าโปร่ง ต้นไม้ใหญ่ที่สำคัญในพื้นที่คือ เต็ง รัง ประดู่ เหียง กะบาก เป็นต้น นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูฝน ต้นฤดูหนาว ประมาณเดือนตุลาคม – ปลายพฤศตจิกายน จะมีดอกไม้ป่ารวมถึงทุ่งดอกไม้บนลานหินออกดอกบานสะพรั่ง เช่น ดอกดุสิตา สร้อยสุวรรณา กระดุมเงิน เป็นต้น ประกอบกับความสูงของยอดภูสมุยที่สูงถึง 1,400 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงทำให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาว เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวประเภทนิยมการค้างแรมที่จะเดินทางมาเที่ยวชมกันตั้งแต่เดือนตุลาคมไปจนถึงสิ้นปี สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ บนยอดภูสมุยนอกจากการกางเต็นท์พักแรมท้าลมหนาวแล้ว ยังมีลานหินที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ต้นเล็ก ๆ ที่สวยงามมาก รวมถึงจุดชมวิวที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ ในเขตท้องที่รับผิดชอบของ อบต. สำโรง ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเช่น เสาเฉลียงใหญ่ ถ้ำโลงโบราณ ถ้ำมืด เสาหินตั้ง และการนั่งเรือชมทิวทัศน์ในแม่น้ำโขง

เส้นทางท่องเที่ยวภูสมุย

การท่องเที่ยวบนภูสมุยนั้น เป็นเส้นทางเดินป่าซึ่งต้องมีการค้างแรมด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกจุดพักแรมได้ 3 จุด คือ

เส้นทางที่ 1

เริ่มต้นจากเสาเฉลียง ถ้ำโลงโบราณ เสาหินตั้ง ถ้ำมืด พักแรมที่บริเวณลานหินสวย ชมธรรมชาติยามเช้าด้วยทางเรือ (เริ่มล่องเรือที่บ้านผาชันไปขึ้นที่บ้านดงนา อำเภอศรเมืองใหม่) แล้วกลับมาเริ่มต้นเดินขึ้นภูที่บ้านผาชัน

เส้นทางที่ 2

คล้ายกับเส้นทางที่ 1 แต่เปลี่ยนจุดพักแรมมาเป็นบริเวณเสาเฉลียง

เส้นทางที่ 3

เริ่มต้นจากภูสมุย ระยะทางเดินขึ้นภู 1.5 กิโลเมตร ชมภาพเขียนสีศึกษาธรรมชาติ ชมทุ่งดอกไม้ป่า ชมพระอาทิตย์ตกที่ผานางคอย พักแรมบนภูสมุย ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาหุ่งกำพร้า ชมทุ่งดอกไม้แห่งที่สองและเดินทางกลับเส้นทางที 1 และ 2 นั้น ระยะทางค่อนข้างไกลจึงไม่เป็นที่นิยมนัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเลือกเส้นทางที่ 3 เพราะระยะทางใกล้ เมื่อเที่ยวบนภูสมุยแล้ว จึงค่อยเดินทางเที่ยวรอบ ภูสมุย ซึ่งจากที่ทำการ อบต. สำโรง มีจุดเริ่มเดินเท้าที่บ้านสะเอิงทอง

สถานที่ท่องเที่ยวบนภูสมุย

· ผานางคอย

อยู่ห่างจากจุดที่ขึ้นมาสู่สันภูประมาณ 100 เมตร มีเส้นทางเดินเท้าตัดออกมาทางทิศตะวันตก ลักษณะเป็นลานหินโล่งที่อยู่ริมหน้าผา ผานางคอยเป็นจุดชมวิวท่ามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลในเขตอำเภอโพธิ์ไทร และวิวแม่น้ำโขง นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย

· วิงกินรี

อยู่ห่างจากผานางคอยประมาณ 300 เมตร บริเวณนี้มีลักษณะเป็นลานหินกว้างมาก ตรงกลางลานหินนี้มีลำธารไหลผ่านก่อนจะไหลลงสู่บริเวณแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ในแอ่งน้ำนี้จะมีน้ำมากในช่วงฤดูฝนและน้ำน้อยในฤดูแล้ง วังกินรีอยู่ไม่ไกลจากจุดพักแรมมากนัก ตรงข้ามกับแอ่งน้ำนี้ คือ กลุ่มเสาหินที่มองดูคล้ายกับเศียรพญานาค

· ถ้ำแต้ม

อยู่ห่างจากวังกินรีประมาณ 100 เมตร ถ้าแต้มนั้นเป็นเพิงหินที่ปรากฏภาพเขียนสีของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุร่วมสมัยเดียวกับภาพเขียนสีที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม แม้ว่าภาพเขียนสีที่นี่จะเลือนรางแต่ก็พอสังเกตเห็นได้

จุดพักแรม อยู่ห่างจากถ้ำแต้มเพียง 150 เมตร จุดนี้เป็นจุดกึ่งกลางของยอดภูสมุย ลักษณะเป็นลานหินโล่ง พื้นที่กว้างขวางและอยู่ไม่ไกลจากลำธาร นักท่องเที่ยวที่เริ่มต้นเดินขึ้นภูสมุยจะพักแรมกันที่นี่ เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว จะเตรียมเต็นท์และอาหารสำหรับมื้อเย็นกันที่นี่ด้วย หากยังไม่ค่ำสามารถเดินไปชมทุ่งดอกไม้บนลานหิน ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 100 เมตรได้ หรือจะเดินย้อนกลับไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่ผานางคอยก็ได้

· ทุ่งดอกไม้ป่า

อยู่ห่างจากจุดพักแรม 100 เมตร ลักษณะเป็นลานหินโล่ง ๆ สลับกับก้อนหินและเสาหินที่มีลักษณะแปลกตามากมาย เช่น หินรูปปลาฉลาม หินรูปหัวจระเข้ หินโยกเยกที่มช้มือข้างเดียวขกขึ้นได้ เป็นต้น ส่วนดอกไม้ที่พบบนลานหินได้แก่ ดอกไม้ดินต่าง ๆ เช่น ดอกกระดุมเงิน ดุสิตา จอกว่วาย หญ้าหมู่ดาว สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร รวมถึงกล้วยไม้แดงอุบล ซึ่งเป็นกล้วยไม้เฉพาะถิ่นที่พบในจังหวัดอุบลราชธานี

· จุดชมวิวผาหุ่งกำพร้า

อยู่ถัดจากลานดอกไม้ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 150 เมตร ผาหุ่งกำพร้าเป็นลานหินที่ไม่กว้างนัก ด้านหน้าเป็นหน้าผาโล่งที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะตื่นแต่เช้า เพื่อเดินมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าผานี้ หากเป็นช่วงฤดูหนาวยังมีทะเลหมอกสวย ๆ ให้ชมด้วย

· สะพานหินธรรมชาติ

อยู่บริเวณเดียวกับผาหุ่งกำพร้า ลักษณะเป็นแผ่นหินบาง ๆ ยกตัวโค้งคล้ายสะพานยาวประมาณ 10 รอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยต้นเฟิร์นขนาดต่าง ๆ จากผาหุ่งกำพร้าเดินเลียบขอบภูมาไม่ไกลนัก

· จุดชมวิวผานกเหาะ


จากขอบภูบริเวณผาหุ่งกำพร้าเดินมาทางขวามือไม่ไกลนัก จะพบกับผานกเหาะ ลักษณะเป็นลานหินกว้างเช่นเดียวกับผาหุ่งกำพร้า แต่กว้างกว่า เป็นจุดที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงามเช่นเดียวกันกับผาหุ่งกำพร้า

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

นอกจากทุ่งดอกไม้ป่าและเสาหินบนภูสมุยแล้ว ในเขตพื้นที่บ้านผาชันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งแต่ละแห่งนั้นเดินทางสะดวก รถเข้าถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลังจากกกลับลงมาจากเดินดูทุ่งดอกไม้บนภูสมุยที่ไม่ควรพลาดชม เช่น

· เสาเฉลียงใหญ่

ตั้งอยู่ที่บ้านผาชัน หมู่ที่ 7 ลักษณะเป็นเสาหินทรายขนาดใหญ่สองแท่งคล้ายดอกเห็ดยักษ์ สูง 12 เมตร วัดโดยรอบได้ 36 เมตร เป็นเสาหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม

· ถ้ำโลงโบราณ

ตั้งอยู่ที่บ้านผาชัน หมู่ที่ 7 เป็นโลงศพโบราณที่มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ใช้สำหรับใส่ศพเด็กและผู้ใหญ่ มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าในสมัยโบราณเมื่อมีคนตาย จะนำศพใส่โลงไปฝัง แล้วนำโลงกลับมาเก็บไว้ และให้ใช้โลงศพเดียววันนี้เรื่อย ๆ เพราะเชื่อว่าวิญญาณที่ตายไปจะได้มาอยู่ในที่เดียวกัน

· เสาหินตั้ง

ตั้งอยู่ที่บ้านผาชัน เป็นเสาหินทรายทรงกลมขนาดใหญ่สูงประมาณ 7 เมตร วัดโดยรอบได้ 12 เมตร ตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางทุ่งกว้าง ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล

· ถ้ำมืด

อยู่ในเขตบ้านผาชันเช่นเดียวกัน เป็นถ้ำหินทรายขนาดใหญ่ มีความยาวของโถงถ้ำประมาณ 500 เมตร มีปล่องทะลุไปยังแม่น้ำโขงได้ ถ้ำนี้สามารถเข้าชมได้เฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม – พฤษภาคม เท่านั้น

สิ่งอำนวยความสะดวก

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้โดยตรงที่องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำทาง ลูกหาบ บริการรถนำเที่ยว เรือพาเที่ยวชมแม่น้ำโขง และเต็นท์ให้เช่าด้วย โดยมีอัตราค่าบริการดังนี้

- เต็นท์พักแรม หลังละ 50 บาท/2 คน

- ค่าลูกหาบคิดตามน้ำหนัก กิโลกรัมละ 10 บาท

- ผู้นำทาง 1 วัน 1 คืน 200 บาท/นักท่องเที่ยว 10 คน

- ผู้นำทาง 2 วัน 2 คืน 400 บาท/นักท่องเที่ยว 10 คน

- รถนำเที่ยว เส้นทางที่ 1 (ไป-กลับ) เที่ยวละ 200 บาท / 10 คน

- ค่าบริการทางเรือ เส้นทางที่ 1 (ไป-กลับ) เที่ยวละ 300 บาท/10คน

- ค่าธรรมเนียมอุทยานฯ

ติดต่อ

นักท่องเที่ยวต้องติดต่อล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนเดินทาง รายละเอียดอื่น ๆ สอบถามได้ที่

- องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง บ้านสำโรง อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์ 0 4533 7023, 0 4533 7065

- อุทยานแห่งชาติผาแต้ม โทรศัพท์ 0 4524 9780

Package 3 วัน 1 วัน

วันที่ 1

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดอุบลราชธานี แวะเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ชมภาพเขียนสี เที่ยวน้ำตกลงรู น้ำตกสร้อยสวรรค์ ในเขตอำเภอโขงเจียม ค้างแรมที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มสักคืน

วันที่ 2

เดินทางต่อไปยังอำเภอโพธิ์ไทร เตรียมอุปกรณ์และสัมภาระในการค้างแรมบนภูสมุย พร้อมแล้วเริ่มต้นในช่วงสายเดินเท้าสู่ภูสมุยชมผานางคอย ทุ่งดอกไม้บนลานหิน ปิกนิกริมลำธาร และชมพระอาทิตย์ตกที่ผานางคอย

วันที่ 3

ตื่นเช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาหุ่งกำพร้า หรือผานกเหาะชมสะพานหินธรรมชาติ ความมหัศจรรย์แห่งป่าภูสมุย เที่ยวทุ่งดอกไม้ แล้วกลับลงมาเที่ยวชมเสาเฉลียงใหญ่ ถ้ำมืด ถ้ำโลงโบราณ เสาหินตั้งและเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ